เครื่องราง เฉลว นี้เกี่ยว ข้อง มากับของคนไทยมาช้านาน ซึ่งเกี่ยวกับ ความขลัง มี อำนาจ เฉลว มีตั้งแต่ 3 มุม ขึ้นไป เป็น 4-5 หรือ 7 มุม .... 3 มุม หมายถึง ไตรสรณคมน์ ได้แก่ พุทธัง ธรรมัง สังฆัง ถ้า 4 มุม หมายถึง 4 ธาตุ ได้แก่ อาโป วาโย เ๖โช และ ปฐวี หรือ ดิน น้ำ ลม ไฟ นั้นเอง รวมเรียกว่า มหาภูตรูป4 ส่วน 5มุม หมายถึง พระเจ้า 5พระองค์ คือ นโมพุทธายะ และ 7 มุม หมายถึง การสรรเสริญ พระรัตนตรัย อิติปิโสภควา .....เฉลว ที่ใช้ในหมู่แพทย์แผนโบราณจะใช้ เฉลว หลวง มี 7 มุม ....คำว่า เฉลว นั้น เป็นคำที่ใช้กันในภาคกลางแต่สมัย ก่อน ยุคโบราณ เขาใช้คำว่าตาเหลว...การใช้เฉลว เพื่อคุ้มครองรักษา นั้น มีวิธีใช้ต่างกันในแต่ละท้องถิ่น ถ้าชาวนา จะเรียก กันวา ตาเหลวแรกนาโดยใช้ไม้ไผ่สานเพื่อ ทำพิธีเสี่ยงทายและขอต่อเจ้าที่และแม่โพสพ ..ส่วนในทางภาคเหนือจะใช้เฉลว ตาเหยี่ว เพื่อกำหนดขอบเขตที่คุ้มครองให้ปลอดภัยจากผีอีกด้วย ..เฉลว นี้ จัดเป็นของมงคลที่มองข้ามไม่ได้ เพราะจะใช้ในพิธีสำคัญๆของทางพราหม์เป็นหลักด้วย..ดังเช่นเงินพด ด้วงตราเฉลว ทำขึ้นในสมัย ร.3 ด้วยปรากฏเกิด โรค อหิวา ใน พระนคร เดือน 7 ปี 2392 ผู้คนล้มตายมาก ท่านทรงโปรด ให้บำเพ็ญพระราชกุศลเป็นการใหญ่และนิมนต์พระสงฆ์ให้สวดขับไล่ความเจ็บป่วยและทรงให้ประชาชนถือศีลสร้างกุศลโดยทำอภัยทานปล่อยสัตว์ครั้งใหญ่ ซึ่งกลังจากนั้นแล้วปรากฏ ว่ามีฝนตกลงมาขนานใหญ่ช่วยชำระสิ่งสกปรกให้หมดไปไม่นานความไข้ก็หายไป จึงเชื่อ กันว่า ร.3โปรดเกล้าให้ผลิตพดด้วงตราเฉลวขึ้นและแจกให้ประชาชนไว้เพื่อป้องกันโรคระบาด...ปัจจุบัน ยันต์เฉลว นี้ พบเห็นได้น้อย เพราะการเดินยันต์ ท่องสูตร ค่อยๆหายไปเพราะการถ่ายทอด จาก รุ่นสู่รุ่น น้อยลงทุกที แต่จะมีให้พานภพเห็นอยู่บ้างในเครื่องรางของขลัง เรียกกันว่ายันต์เฉลวเพชร( ให้ ไป ดู หลัง พระปิดตา เกลอ เดียว ของ หลวงพ่อทา พิพม์ เกลอเดียว น่ะครับ จะเห็นชัด) อนึ่งเฉลวจัดเป็นของทรงคุณค่านับวันยิ่งหายากลงทุกที ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีค่า ท่านพี่จิวยี้